สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา วรายุภัสร์ (ชื่อเดิม วีรพงษ์) อัสดรธีรยุทธ์ ฉบับ B1249 ประจำวันที่ 09-15 ม.ค. 2560

BMW ผู้นำเทรนด์ i Wallbox Pure แหล่งชาร์จไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้ายุค 4.0 นั้นถือว่าเป็นวิวัฒนาการล้ำหน้าที่จะเข้ามาทดแทนรถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง หรือพลังงานลูกผสมในอนาคตอันใกล้นี้ และเป็นแนวทางในการชี้ทางสู่การพัฒนาการใช้พลังงานที่ช่วยลดมลพิษ หรือปราศจากมลพิษอย่างยั่งยืนต่อไป โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถไฮบริด ไฮบริด ปลั๊กอิน และรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก โดยบริษัทฯ มีการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์-รอยซ์ และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู อีกทั้งยังมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 14 ประเทศ และมีเครือข่ายผู้จำหน่าย และบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน 14 ประเทศที่บีเอ็มฯ กรุ๊ป บริษัทแม่ที่ประเทศเยอรมนีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือว่าเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และมีชัยภูมิที่โดดเด่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ โดยมีการบริหารจัดการภายใต้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งเป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยนั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 03 ตุลาคม 2541 โดยประกอบไปด้วย 3 บริษัท ได้แก่ 1. บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป 2. บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และ 3. บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล

ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ ส่งผลให้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เติบโตอย่างต่อเนื่อง และในปี 2558 ที่ผ่านมามียอดขายรถยนต์ 2.247 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 137,000 คันทั่วโลก และมีพนักงานทั้งหมด 122,244 คนทั่วโลก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนี้ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด

นอกจากนี้ บีเอ็มฯ กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

ทั้งนี้ สำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของบีเอ็มฯ กรุ๊ปนั้นจะเน้นหนักในเรื่องต่างๆ มากมายทั้งเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ ความปลอดภัย รูปลักษณ์การออกแบบทั้งภายนอกและภายใน และที่สำคัญ การเลือกใช้เชื้อเพลิงที่ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น

สำหรับประเทศไทย บีเอ็มฯ กรุ๊ป ประเทศไทยนั้นได้ตอกย้ำสถานะผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตเพื่อความยั่งยืน ล่าสุดได้จับมือกับทางโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ เดินหน้าขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ BMW i Wallbox Pure อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู iPerformance ทุกรุ่น สำหรับลูกค้าของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยเท่านั้น โดยนอกจากจะไม่คิดค่าบริการใดๆ แล้ว ลูกค้าบีเอ็มฯ ยังสามารถทราบเวลาที่สามารถออกเดินทางครั้งต่อไปได้ โดยระบบคอมพิวเตอร์ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจะคำนวณเวลาที่ต้องใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มความจุ พร้อมแสดงผลทางหน้าจอที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัยคนขับ

"นอกจากการสร้างสรรค์ยนตรกรรมระดับพรีเมียมที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ นวัตกรรมล้ำสมัย และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์แล้ว เรายังมีวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างอนาคตแห่งความยั่งยืนผ่านทางเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ดังจะเห็นได้จากนวัตกรรมปลั๊กอินไฮบริด บีเอ็มดับเบิลยู iPerformance ที่ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน และระดับการปล่อยมลภาวะลง โดยยังคงรักษาประสิทธิภาพและความเพลิดเพลินในการขับขี่ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i8 บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e หรือบีเอ็มดับเบิลยู 330e ปลั๊กอินไฮบริด" มร.สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ระบุ

บีเอ็มฯ กรุ๊ป ประเทศไทย มีบริการสถานีชาร์จ BMW i Wallbox Pure เพื่อให้บริการสำหรับลูกค้าของผู้จำหน่ายบีเอ็มฯ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 5 แห่งในขณะนี้ โดยแบ่งเป็นในโซนของโรงแรม 3 แห่ง ได้แก่ สถานีชาร์จ BMW i Wallbox Pure ที่โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ และอีก 2 แห่ง ในบริเวณโซนจอดรถยนต์พิเศษของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และอาคารออล ซีซั่น เพลส