สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา วรายุภัสร์ (ชื่อเดิม วีรพงษ์) อัสดรธีรยุทธ์ ฉบับ B1257 ประจำวันที่ 06-12 มี.ค. 2560

บางจากฯ ยุค 4.0 ไฉไลกว่าเดิม

"บิ๊กบอส" ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 ว่าบริษัทฯ คาดว่าใช้งบลงทุนประมาณ 18,500 ล้านบาท ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างความมั่นคงควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง สร้างศูนย์นวัตกรรม Bangchak Initiative Innovation Center : BIIC เพื่อนำผลวิจัยมาต่อยอดและขยายธุรกิจใหม่ สนับสนุนเศรษฐกิจไทยยุค 4.0 อาทิ โครงการผลิตภัณฑ์ชีวภาพ Bio Product โครงการการบริหารการใช้พลังงานผ่าน Energy Storage เป็นต้น

"ด้านธุรกิจโรงกลั่นนั้นจะขยายกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 111,000 บาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 93 คาดว่าจะมีค่าการกลั่นอยู่ในระดับ 6-7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยมีโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น (YES-R Project) ให้มีศักยภาพสูงสุดและลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม" "บอสชัยวัฒน์" ระบุ

"บอสใหญ่" ชัยวัฒน์ กล่าวต่อถึงธุรกิจการตลาดว่าบริษัทฯ ตั้งเป้าจำหน่ายน้ำมันให้ได้ 530 ล้านลิตรต่อเดือน โดยเพิ่มการจำหน่ายผ่านตลาดค้าปลีก และจะขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีก 100 แห่ง บนถนนสายหลักในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงเปิดตาม Cluster ที่มีการจราจรสูง แต่ยังมีปั๊มน้ำมันบางจากฯ ในสัดส่วนที่ไม่มาก โดยเฉพาะบางพื้นที่ในโซนอีสาน และตะวันออก เน้น Greenovative Experience รวมถึงการทำ Repositioning จับกลุ่มเกษตรกรเพิ่มเติมในถนนสายรอง และมีธุรกิจเสริมอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคผ่าน SPAR ซูเปอร์มาร์เกต ที่จะเพิ่มอีก 55 สาขา ขยายการให้บริการอินเตอร์เน็ตเพิ่มอีก 120 สาขา และมีมุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนตามนโยบายของบางจากฯ และภายในกลางปีนี้จะนำข้าวสารจากเกษตรกรไทยส่งไปขายในร้าน SPAR ที่ต่างประเทศ

ด้านธุรกิจไบโอฟูเอลและธุรกิจไบโอดีเซลนั้น "บิ๊กชัยวัฒน์" เผยว่าบริษัทฯ คาดว่าจะจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 หากภาครัฐฯ ยังคงสัดส่วนการผสมผลิตภัณฑ์ B100 ในน้ำมันดีเซลที่ระดับร้อยละ 5 และมีแผนการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 710,000 ลิตรต่อวัน โดยธุรกิจเอทานอลจะผลิตเฉลี่ยที่ 130,000 ลิตรต่อวัน ขณะที่ธุรกิจไบโอฟูเอลนั้นจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับนโยบายด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ (Biotech) ตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล

"ส่วนธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ และธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) นั้นคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยมีแผนการผลิตในแหล่งน้ำมัน Galoc 2,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมทั้งสำรวจแหล่ง Mid Galoc ขณะเดียวกันยังมีมาตรการลดรายจ่ายทั้งค่าใช้จ่ายในการผลิต และค่าใช้จ่ายการบริหารอย่างต่อเนื่อง" ประธานฯ และเอ็มดีฯ บางจากฯ ระบุ

ขณะที่การลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ Lithium Americas Corp. อีกจำนวน 50 ล้านหุ้นนั้น "บอสบางจากฯ" กล่าวว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายน 2560 นี้ ในราคาหุ้นละ 0.85 เหรียญแคนาดา รวมมูลค่า 42.5 ล้านเหรียญแคนาดา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเงินลงทุนในการพัฒนาโครงการเหมืองลิเทียม ของ Minera Exar S.A. (Cauchari Olaroz Project) ที่ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2562

"ตลอดระยะเวลากว่า 32 ปีที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จากเดิมที่ดำเนินโครงการต่างๆ เฉพาะบริษัทแม่ แต่ปัจจุบันได้ขยายไปยังบริษัทในเครือ รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตั้งแต่คู่ค้า ลูกค้า ซัพพลายเออร์ ร่วมกันแสดงความรับผิดชอบในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ Green Partnership ให้ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันบางจากฯ คิดกิจกรรม หรือโครงการที่ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม ทำประโยชน์ให้กับชุมชนในพื้นที่ที่ประกอบธุรกิจ และดูแลพนักงานให้มีความสุข" "ประธานฯ" ชัยวัฒน์ ย้ำ

"บอสชัยวัฒน์" ระบุทิ้งท้ายว่านอกจากสิ่งที่ได้ดำเนินการมาแล้วนั้น บริษัทฯ ยังได้มีการจัดตั้งบริษัท ออมสุข จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท Social Enterprise สนับสนุนให้เกษตรกรในจังหวัดเชียงรายปลูกข้าวและทำเกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มทางการเกษตรเพื่อยกระดับชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเกษตรกร