สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา วรายุภัสร์ (ชื่อเดิม วีรพงษ์) อัสดรธีรยุทธ์ ฉบับ B1266 ประจำวันที่ 08-14 เม.ย. 2560
ฟอร์ด GO FOR CLEAN ENVIRONMENT
"ฟอร์ดมุ่งมั่นพัฒนาหนทางสู่ความยั่งยืนเพื่อรักษาโลกของเราไว้อย่างดีที่สุด อีกทั้งเราต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านความยั่งยืนอย่างไม่หวาดหวั่น และกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมในทุกภาคส่วนของธุรกิจ" ซินเธีย วิลเลียมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม และวิศวกรรมความปลอดภัย ฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิค ระบุ
ฟอร์ดเน้นมอบทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกรถแก่ผู้บริโภค อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงในรถรุ่นปัจจุบัน ไปจนถึงการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า ทางเลือกเชื้อเพลิงต่างๆ และเทคโนโลยีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยกลยุทธ์ของฟอร์ดคือการมองหาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงที่คุ้มค่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนหลายล้านคนและสร้างความแตกต่างที่แท้จริง
บริษัทฯ ฟอร์ดกำลังพัฒนา และได้นำเสนอเทคโนโลยีเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบใหม่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์อีโค่บูสต์ และระบบส่งกำลัง 6, 9 และ 10 สปีด รวมไปถึงการลดน้ำหนักของรถ และการพัฒนาการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) เพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังนำวัสดุที่นำมาใช้ใหม่ได้ และวัสดุชีวภาพมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม โดยยังคงรักษาสมรรถนะ คุณภาพ และความทนทานของรถยนต์ไว้
ในปัจจุบันชิ้นส่วนกว่า 300 ชิ้นที่ใช้ในรถยนต์ฟอร์ดนั้น ผลิตมาจากวัสดุชีวภาพ เช่น ถั่วเหลือง ฝ้าย ไม้ ป่าน ปอกระเจา และยางธรรมชาติ และฟอร์ดยังกำลังวิจัยถึงความเป็นไปได้ในการนำวัสดุอื่นๆ ที่นำมาใช้ใหม่ได้ เช่น ไม้ไผ่ และพืชใบเลี้ยงเดี่ยวสกุล Agave มาใช้ในอนาคต
"ผู้บริโภคอายุน้อยใส่ใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสถานที่และกระบวนการผลิตสินค้า ไม่ว่าจะเป็นผักหรือรถยนต์ก็ตาม ซึ่งพวกเขาตระหนักถึงความรับผิดชอบที่ตนเองมีต่อประเด็นทางสังคม และพร้อมจะจ่ายเพื่อความเชื่อของตน เราจึงต้องตามความต้องการของผู้บริโภคให้ทันเพื่อคงความแข็งแกร่งในการแข่งขันของเราไว้" เชอรีล คอนเนลลี่ ผู้จัดการฝ่ายเทรนด์และอนาคตผู้บริโภคระดับโลก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ย้ำ
นับว่าเทรนด์ในเรื่องสิ่งแวดล้อม การช่วยลดมลพิษ และการใช้วัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ที่สุดกำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น รวมถึงการคิดค้น และนำวัสดุที่ได้จากธรรมชาติมาใช้ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มขึ้น
ฟอร์ดได้เข้าสู่กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อการเป็นบริษัทสีเขียวในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจของเรามาเป็นระยะเวลานานแล้ว โดยในระดับโลกนั้นฟอร์ดได้ลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต 25 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างปี 2553 ถึง 2558 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังกำลังมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการลดการใช้น้ำ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายลดการใช้น้ำดีเป็นศูนย์ในโรงงานผลิตของฟอร์ด
ในระดับเอเชีย แปซิฟิคนั้น ฟอร์ดประสบความสำเร็จในการเดินหน้าลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม อาทิ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนน็อคไซด์ต่อการผลิตรถยนต์ 1 คัน ได้เกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2559 เมื่อเทียบกับปี 2558 และลดลงเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา
ฟอร์ดใช้น้ำในการผลิตรถยนต์ต่อคันน้อยลง 15 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2559 เมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งเทียบเท่ากับอ่างอาบน้ำ 2 อ่าง หรือน้ำดื่มขนาดครึ่งลิตร 1,000 ขวด
และในประเทศไทย โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (FTM) และโรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) มีกลยุทธ์การจัดการทรัพยากรน้ำและระบบบำบัดน้ำเสียแบบครบวงจร และในโรงงาน AAT มีการนำระบบจัดการระบายความร้อนภายในอาคารและกระบวนการกำจัดฟอสเฟตเข้ามาใช้ โดยสามารถช่วยทำให้ประหยัดน้ำได้มากกว่า 9,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เป็นต้น