สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา วรายุภัสร์ (ชื่อเดิม วีรพงษ์) อัสดรธีรยุทธ์ ฉบับ B1279 ประจำวันที่ 07-13 ส.ค. 2560
บีเอ็มฯ ผู้นำเทรนด์โฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตซีดาน คูเป้ คอนเวอร์ทิเบิล และไฟฟ้า
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i3 รุ่นแบตเตอรี่ 94 แอมป์ชั่วโมง ให้แก่สถาบันยานยนต์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยการส่งมอบรถยนต์ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และสถาบันยานยนต์ ภายใต้โครงการ "ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า" ซึ่งถือเป็นอีกก้าวของนวัตกรรมยานยนต์แห่งความยั่งยืนในประเทศไทย
"หนึ่งในความมุ่งมั่นของเราคือ การสร้างสรรค์และพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรมและการออกแบบที่ทันสมัย และเพื่อต่อยอดการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในไทย บีเอ็มดับเบิลยูได้ร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับสถาบันยานยนต์ ภายใต้โครงการ "ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า" ในภารกิจที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตอันยั่งยืน" "พี่จอน" กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ระบุ
สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i3 (รุ่นแบตเตอรี่ 94 แอมป์ชั่วโมง) นั้นมีความจุแบตเตอรี่ที่ 33 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ด้วยความสามารถในการกักเก็บพลังงานในเซลล์ลิเธียมไออนที่มากขึ้น โดยมิติของแบตเตอรี่ยังคงมีขนาดเท่าเดิม แต่สามารถขับได้ในระยะทางเพิ่มขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ตามมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle) หรือกว่า 300 กิโลเมตร จากเดิม 190 กิโลเมตร เมื่อขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือท่ามกลางสภาพอากาศอันแปรปรวน หรือการใช้งานพร้อมเครื่องปรับอากาศหรือฮีทเตอร์ บีเอ็มดับเบิลยู i3 ยังคงสามารถทำระยะทางได้กว่า 200 กิโลเมตร ด้วยแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มหนึ่งรอบ
มอเตอร์ไฟฟ้า hybrid synchronous ส่งพลังที่ 125 กิโลวัตต์ / 170 แรงม้า ให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรภายใน 7.3 วินาที บีเอ็มดับเบิลยู i3 จึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สปอร์ต และเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพที่สุดในเซกเมนต์รถพรีเมียมคอมแพ็ค พร้อมอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ 12.6 กิโลวัตต์ / 100 กิโลเมตร (NEDC) เมื่อทำงานร่วมกับ Range Extender เครื่องยนต์เบนซินสองสูบจะส่งกำลังให้ระดับชาร์จแบตเตอรี่คงที่แม้ในขณะขับขี่ จึงสามารถทำระยะทางเพิ่มเติมได้อีกกว่า 150 กิโลเมตร
อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ค่ายใบพัดฟ้าขาว บีเอ็มฯ ในประเทศไทยเพิ่งเปิดตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 รุ่นปรับโฉมใหม่ล่าสุด โดยซีรีส์ 4 รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับความภูมิฐานและหรูหราในตระกูลเครื่องยนต์เบนซิน BMW EfficientDynamics ที่ใช้เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้พลังขับเคลื่อนที่คล่องตัว พร้อมประหยัดพลังงาน นำโดย บีเอ็มดับเบิลยู 430i คูเป้ Luxury, บีเอ็มดับเบิลยู 430i คูเป้ M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู 430i คอนเวอร์ทิเบิล Luxury, และบีเอ็มดับเบิลยู 430i คอนเวอร์ทิเบิล M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู M4 คูเป้ ครบครันทั้งด้านสุนทรียภาพแห่งการออกแบบและสมรรถนะอันปราดเปรียว และยังมาพร้อมดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวและระบบกันสะเทือนที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ผสานประสิทธิภาพการขับขี่และความหรูหราสง่างามไว้ได้อย่างลงตัว ขณะที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถแต่ละรุ่น
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 ในสไตล์คูเป้ ซึ่งเป็นการดีไซน์แห่งยนตรกรรมที่สมดุล โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 430i คูเป้ Luxury ในราคา 3,499,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และบีเอ็มดับเบิลยู 430i คูเป้ M Sport ในราคา 3,799,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 สไตล์คอนเวอร์ทิเบิล ซึ่งเป็นการดีไซน์ในสไตล์ที่สุดแห่งอิสระอันไร้ที่ติ โดยมีให้เลือก 2 รุ่นเช่นกัน ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 430i คอนเวอร์ทิเบิล Luxury ในราคา 3,999,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และบีเอ็มดับเบิลยู 430i คอนเวอร์ทิเบิล M Sport ในราคา 4,299,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ทิ้งท้ายที่ BMW M4 Coupe ที่สุดแห่งยนตรกรรมสายพันธุ์สปอร์ต โดยมีให้เลือกเป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นที่ 8,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)