สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา วรายุภัสร์ (ชื่อเดิม วีรพงษ์) อัสดรธีรยุทธ์ ฉบับ B1306 ประจำวันที่ 12-18 ก.พ. 2561
เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดกิจกรรมขอบคุณผู้ติดตามอินสตาแกรมทั่วโลก
เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อขอบคุณผู้ติดตามแอคเคาท์อินสตาแกรมของบริษัทฯ ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำให้แต่ละแอคเคาท์มีจำนวนผู้ติดตาม การกด “ถูกใจ” การแสดงความคิดเห็น และยอดการปฏิสัมพันธ์สูงที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นแอคเคาท์อินสตาแกรมภาษาเยอรมันของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (@MercedesBenz_de) หรือแอคเคาท์อินสตาแกรมสากลของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (@MercedesBenz) โดยภายในงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำภาพจำนวนหลายร้อยภาพที่ผู้ใช้อินสตาแกรมทั่วทุกมุมโลกโพสต์ลงในแอคเคาท์ของตนเองเพื่อแสดงความรักและความหลงใหลที่มีต่อแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์มาตัดต่อรวมกันเป็นคลิปวิดีโอแอนิเมชั่น พร้อมนำไปฉายบนจอและป้ายโฆษณาในสนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ อารีน่า ณ กรุงเบอร์ลิน เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
ปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลกในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดจากการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจผ่านกลยุทธ์การสื่อสารหลายช่องทาง (Multi-Channel Strategy) อย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังมีการทำงานร่วมกับบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือผู้นำทางความคิดหลายคนเพื่อสร้างเนื้อหาที่เกิดจากผู้ใช้จริง (User-Generated Content) ให้ผู้ติดตามได้เห็นและมีปฏิสัมพันธ์กับทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยตรง โดยการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทางแบรนด์ต้องการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น (Brand Rejuvenation) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ดำเนินงานจนประสบความสำเร็จในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สังคมออนไลน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลกมีค่าเฉลี่ยอายุที่น้อยลง พร้อมสร้างให้มีกลุ่มเป้าหมายใหม่เกิดขึ้น
ความสำเร็จของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในอินสตาแกรมนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าถึงผู้ใช้สื่อออนไลน์ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเนื้อหาที่ถูกโพสต์ลงในช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของแบรนด์นั้นเกิดจากการร่วมสร้างสรรค์ผลงานโดยช่างภาพและช่างถ่ายวิดีโอฝีมือเยี่ยม เพื่อสะท้อนเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้ติดตามทุกเพศทุกวัย ซึ่งในอินสตราแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ภาพและวิดีโอจำนวนมากกว่าร้อยละ 95 นั้นถูกโพสต์โดยช่างภาพและช่างถ่ายวิดีโอเหล่านี้ และมีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่โพสต์โดยแบรนด์เอง
เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีจำนวนผู้ติดตามและการปฏิสัมพันธ์มากที่สุด ผลการสำรวจที่น่าเชื่อถือ 2 ชุดแสดงให้เห็นว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากการทำกิจกรรมผ่านอินสตาแกรม โดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทีโฟร์มีเดีย (T4Media) ได้ทำการวัดจำนวนการปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ในแอคเคาท์อินสตาแกรมของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกจำนวน 100 แบรนด์ตามการจัดอันดับของอินเตอร์แบรนด์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2017 และพบว่าแอคเคาท์อินสตาแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์มีจำนวนการปฏิสัมพันธ์ ทั้งยอดการกด “ถูกใจ” และการแสดงความคิดเห็นกว่า 143 ล้านครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่ง
นอกจากนี้การสำรวจของบริษัท อินฟลูเอนเซอร์ ดีบี (Influencer DB) ของเมืองมุนสเตอร์ ประเทศเยอรมนี ยังสรุปได้ว่าช่องทางออนไลน์ต่างๆ ทั้งระดับชาติ และระดับนานาชาติที่มีรวมกันมากถึง 17 ช่องทางของเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้นมีผู้ติดตามไม่ต่ำกว่า 1 แสนคนต่อ 1 ช่องทาง และมีผู้ติดตามรวมกันทั้งหมดกว่า 22 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 29 ของผู้ติดตามสื่อออนไลน์ของบริษัทรถยนต์ทั้งหมด ส่งผลให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผู้ติดตามในช่องทางออนไลน์มากที่สุดในโลก นอกจากนั้น ยอดการกด “ถูกใจ” (49.67 ล้านครั้ง) จำนวนโพสต์ (1,113 ครั้ง) และการแสดงความคิดเห็น (ประมาณ 85,000 ครั้ง) ก็สูงเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน
เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดแอคเคาท์อินสตาแกรมอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2555 โดยมีแฮชแท็ก #mbshootouts ที่เปรียบเสมือนการเปิดตัวฟอร์แมตใหม่ในการสร้างสรรค์รูปภาพและเนื้อหาเพื่อใช้สำหรับช่องทางอินสตาแกรมโดยเฉพาะ ต่อมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำเสนอแคมเปญ #mbsocialcar แคมเปญที่ให้ช่างภาพที่มีชื่อเสียงยืมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ไปทดลองขับและถ่ายภาพนิ่งหรือคลิปวิดีโอสำหรับโพสต์ลงอินสตาแกรม
นับได้ว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความสม่ำเสมอในการลงข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์และประสบความสำเร็จในด้านนี้ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา การสื่อสารออนไลน์และการสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้นเป็นภารกิจหลักของทีม “ดิจิทัลมีเดียเฮาส์ - Digital Media House” ซึ่งทีมนี้จะสร้างสรรค์เนื้อหาต่างๆ ของแบรนด์ในรูปแบบของการรายงานข่าว และเผยแพร่เนื้อหาเหล่านั้นผ่านช่องทางดิจิทัลทั้งหมดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญกับการนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์ผ่านสื่อดิจิทัลเป็นอย่างมาก รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นผู้ผลิตเนื้อหาที่มีความน่าสนใจอีกด้วย